2.ประโยคสุภาพ | บทที่7-9
บทที่ 7 ประโยคบอกเล่า
| มี 3 ประเภท คือ 1) ประโยคคำนาม 2) ประโยคคุณศัพท์ และ 3) ประโยคกริยา |
「ประธาน」+ は +「คำนาม」+ です
「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์」+ です
「ประธาน」+ が +「กริยา」+ ます
| ① | 田中さん は 日本人 です |
| Tanakasan wa nihonjin desu | |
| คุณทานากะเป็นคนญี่ปุ่นครับ/ค่ะ | |
| ② | 私 は タイ人 です |
| Watashi wa taijin desu | |
| ฉันเป็นคนไทยครับ/ค่ะ | |
| ③ | 私 は ソムチャイ です |
| Watashi wa somuchai desu | |
| ผมชื่อสมชายครับ | |
| ④ | 大学生 です |
| Daigakusei desu | |
| นักศึกษาครับ |
| ⑤ | 象 は 大きい です |
| Zou wa ookii desu | |
| ช้างใหญ่ครับ/ค่ะ | |
| ⑥ | ねずみ は 小さい です |
| Nezumi wa chiisai desu | |
| หนูเล็กครับ/ค่ะ | |
| ⑦ | 桜 は きれい です |
| Sakura wa kirei desu | |
| ซากุระสวยครับ/ค่ะ | |
| ⑧ | タイ人 は 親切 です |
| Taijin wa shinsetsu desu | |
| คนไทยใจดีครับ/ค่ะ |
| ⑨ | 子供 が 泣きます |
| Kodomo ga nakimasu | |
| เด็กร้องไห้ครับ/ค่ะ | |
| ⑩ | 友達 が 来ます |
| Tomodachi ga kimasu | |
| เพื่อนมาครับ/ค่ะ | |
| ⑪ | 本 が あります |
| Hon ga arimasu | |
| หนังสืออยู่ครับ/ค่ะ | |
| ⑫ | 日本人 が 居ます |
| Nihonjin ga imasu คำอธิบาย
อ่านตรงนี้หน่อย
|
บทที่ 8 ประโยคปฎิเสธ
แบ่งเป็น
1) ประโยคคำนามปฎิเสธ
2) ประโยคคุณศัพท์ปฎิเสธ
3)ประโยคกริยาปฎิเสธ
แต่เนื่องจากคำคุณศัพท์แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
ซึ่งผันในรูปปฏิเสธไม่เหมือนกัน จึงมีประโยคปฏิเสธ 4 แบบ ดังนี้
| 「ประธาน」+ は +「คำนาม」+ では ありません 「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 1 + く」+ ありません 「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 2」+ では ありません 「ประธาน」+ が +「คำกริยา」+ ません |
| ① | あなた は 大人 では ありません |
| Anata wa otona dewa arimasen | |
| คุณไม่ใช่ผู้ใหญ่ครับ/ค่ะ | |
| ② | 私 は 中国人 では ありません |
| Watashi wa chuugokujin dewa arimasen | |
| ฉันไม่ใช่คนจีนครับ/ค่ะ | |
| ③ | 私 は 田中さん では ありません |
| Watashi wa Tanakasan dewa arimasen | |
| ฉันไม่ใช่คุณทานากะครับ/ค่ะ | |
| ④ | 先生 では ありません |
| Sensei dewa arimasen | |
| ไม่ใช่อาจารย์ครับ/ค่ะ |
| ⑤ | ねずみ は 大きく ありません |
| Nezumi wa ookiku arimasen | |
| หนูไม่ใหญ่ครับ/ค่ะ | |
| ⑥ | 象 は 小さく ありません |
| Zou wa chiisaku arimasen | |
| ช้างไม่เล็กครับ/ค่ะ | |
| ⑦ | 海 は きれい では ありません |
| Umi wa kirei dewa arimasen | |
| ทะเลไม่สวยครับ/ค่ะ | |
| ⑧ | 彼 は 親切 では ありません |
| Kare wa shinsetsu dewa arimasen | |
| เขาไม่ใจดีครับ/ค่ะ |
| ⑨ | 子供 が 泣きません |
| Kodomo ga nakimasen | |
| เด็กไม่ร้องไห้ครับ/ค่ะ | |
| ⑩ | 友達 が 来ません |
| Tomodachi ga kimasen | |
| เพื่อนไม่มาครับ/ค่ะ | |
| ⑪ | 財布 が ありません |
| Saifu ga arimasen | |
| กระเป๋าสตางค์ไม่อยู่ครับ/ค่ะ | |
| ⑫ | 田中さん が 居ません |
| Tanakasan ga imasen | |
| คุณทานากะไม่อยู่ครับ/ค่ะ |
คำอธิบาย
- では ありません อ่านว่า dewa arimasen เป็นการเปลี่ยนคำว่า です ให้เป็นรูปปฏิเสธอย่างสุภาพ
- ส่วน ません เป็นการเปลี่ยนคำว่า ます ให้อยู่ในรูปปฏิเสธอย่างสุภาพ
- ประโยคคำนามปฏิเสธ จะเปลี่ยน です เป็น では ありません ตามตัวอย่างที่ ①-④
- ประโยคคุณศัพท์ปฏิเสธ มี 2 แบบ คือ
- คุณศัพท์กลุ่มที่ 1 จะเปลี่ยน い เป็น く และต่อท้ายด้วย ありません ตามตัวอย่างที่ ⑤-⑥ คือ
大きい (ooki-i) เปลี่ยนเป็น 大きく (ooki-ku) ありません
小さい (chiisa-i) เปลี่ยนเป็น 小さく (chiisa-ku) ありません - คุณศัพท์กลุ่มที่ 2 จะคงรูปเดิม แต่เปลี่ยน です เป็น では ありません ตามตัวอย่างที่ ⑦-⑧
- คุณศัพท์กลุ่มที่ 1 จะเปลี่ยน い เป็น く และต่อท้ายด้วย ありません ตามตัวอย่างที่ ⑤-⑥ คือ
- ประโยคกริยาปฏิเสธ จะเปลี่ยน ます เป็น ません ตามตัวอย่างที่ ⑨-⑫
- การผันคำคุณศัพท์กลุ่มที่ 1 ให้เป็นประโยคปฏิเสธอย่างสุภาพ นอกจากจะใช้วิธีเปลี่ยน い เป็น く และต่อท้ายด้วย ありません ตามตัวอย่างที่ ⑤-⑥ แล้ว ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งคือเปลี่ยน い เป็น く และต่อท้ายด้วย ない です คือ
- ねずみ は 大きくない です
Nezumi wa ookikunai desu - 象 は 小さくない です
Zou wa chiisakunai desu
- ねずみ は 大きくない です
- รายละเอียดการผันคำคุณศัพท์และคำกริยาให้อยู่ในรูปต่างๆ จะอธิบายในภายหลังต่อไป
- กรณีที่ทราบอยู่แล้วว่าประธานของประโยคคืออะไร จะไม่พูดทั้งประธานและคำช่วยก็ได้ เช่น ตัวอย่างที่ 4 : (私は)先生 では ありません (ฉัน)ไม่ใช่อาจารย์ครับ/ค่ะ
- คำว่า ありません ในตัวอย่างที่ ⑪ เป็นคำกริยาแปลว่า "ไม่อยู่" จะใช้ในกรณีที่ประธานเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต
- คำว่า 居ません ในตัวอย่างที่ ⑫ เป็นคำกริยาแปลว่า "ไม่อยู่" จะใช้ในกรณีที่ประธานเป็นสิ่งมีชีวิต
อ่านตรงนี้หน่อย
- では ありません เป็นภาษาเขียน เวลาจะพูดมักใช้ว่า じゃ ありません (ja arimasen)
- วิธีพูดภาษาญี่ปุ่นให้เพราะ คือ พูดคำช่วยให้ติดกับคำข้างหน้า และอาจหยุดเล็กน้อย แล้วจึงพูดต่อไป เช่น
ตัวอย่างที่ 3 : Watashi wa Tanakasan dewa arimasen ควรพูดว่า Watashiwa Tanakasandewaarimasen หรือ Watashiwa Tanakasanjaarimasen
บทที่ 9 ประโยคคำถาม
มีรูปแบบเดียวกันกับประโยคบอกเล่าและประโยคปฏิเสธ โดยเพิ่มคำว่า か ที่ท้ายประโยค ดังนี้
「ประธาน」+ は +「คำนาม」+ です か
「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์」+ です か
「ประธาน」+ が +「กริยา」+ ます か
「ประธาน」+ は +「คำนาม」+ では ありません か
「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 1 + く」+ ありません か
「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 2」+ では ありません か
「ประธาน」+ が +「กริยา」+ ません か
「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 1 + く」+ ありません か
「ประธาน」+ は +「คุณศัพท์กลุ่มที่ 2」+ では ありません か
「ประธาน」+ が +「กริยา」+ ません か
| ① | あなた は 田中さん です か |
| Anata wa Tanakasan desu ka | |
| คุณคือคุณทานากะหรือเปล่าครับ/ค่ะ | |
| ② | はい、私 は 田中 です |
| Hai, watashi wa Tanaka desu | |
| ใช่ ฉันคือทานากะครับ/ค่ะ | |
| ③ | 田中さん は 学生 では ありません か |
| Tanakasan wa gakusei dewa arimasen ka | |
| คุณทานากะไม่ใช่นักเรียนหรือครับ/ค่ะ | |
| ④ | いいえ、私 は 先生 です |
| Iie, watashi wa sensei desu | |
| เปล่า ฉันเป็นอาจารย์ครับ/ค่ะ |
| ⑤ | スイカ は 丸く ありません か |
| Suika wa maruku arimasen ka | |
| แตงโมไม่กลมหรือครับ/ค่ะ | |
| ⑥ | いいえ、 スイカ は 丸く ありません。四角い です |
| Iie, suika wa maruku arimasen. Shikakui desu | |
| ไม่ แตงโมไม่กลม สี่เหลี่ยมครับ/ค่ะ | |
| ⑦ | ソムチャイさん は 親切 です か |
| Somuchaisan wa shinsetsu desu ka | |
| คุณสมชายใจดีไหมครับ/ค่ะ | |
| ⑧ | はい、親切 です |
| Hai, shinsetsu desu | |
| ครับ/ค่ะ ใจดีครับ/ค่ะ |
| ⑨ | 子供 が 泣きます か |
| Kodomo ga nakimasu ka | |
| เด็กร้องไห้หรือเปล่าครับ/ค่ะ | |
| ⑩ | はい、子供 が 泣きます |
| Hai kodomo ga nakimasu | |
| ใช่ เด็กร้องไห้ครับ/ค่ะ | |
| ⑪ | お母さん が 居ます か |
| Okaasan ga imasu ka | |
| คุณแม่อยู่ไหมครับ/ค่ะ | |
| ⑫ | いいえ、お母さん が 居ません |
| Iie, okaasan ga imasen | |
| ไม่ คุณแม่ไม่อยู่ครับ/ค่่ะ |
คำอธิบาย
- か เป็นคำต่อท้ายประโยคเพื่อทำให้เป็นประโยคคำถาม ใช้ได้กับทั้งประโยคบอกเล่าและปฏิเสธ
- ในการตอบคำถาม ปกติจะตอบด้วยคำว่า はい หรือ いいえ คือ
- はい จะเป็นการตอบรับว่า สิ่งที่ถามนั้นถูกต้อง
- いいえ จะเป็นการตอบปฏิเสธว่า สิ่งที่ถามนั้นไม่ถูกต้อง
- การตอบคำถามโดยไม่ทวนประโยค สามารถตอบสั้นๆได้ ดังนี้
- はい、そうです (Hai, sou desu) ใช่ เป็นเช่นนั้นครับ/ค่ะ
- いいえ、違います (Iie, chigaimasu) เปล่า ไม่ใช่ครับ/ค่ะ
อ่านตรงนี้หน่อย
- ですか และ ますか เป็นคำถามอย่างสุภาพ ใช้ได้ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน
- ในภาษาพูด จะออกเสียงใหกระชับ โดยออกเสียง ですか ว่า des ka และออกเสียง ますか ว่า mas ka โดยขึ้นเสียงสูงเล็กน้อยเพื่อให้เป็นประโยคคำถาม
