6.คำช่วย1/4 | บทที่20-24
บทที่ 20 คำนามที่ไม่ต้องมีคำช่วย
คำนามเกี่ยวกับระยะเวลา จำนวน และลักษณะนาม ไม่ต้องมีคำช่วย |
「ประธาน」+ が + | 「ระยะเวลา」 「ลักษณะนาม」 | +「กริยา」+ ます |
① | お姉さん が 8時間 寝ます |
Oneesan ga hachijikan nemasu | |
พี่สาวนอน 8 ชั่วโมงครับ/ค่ะ | |
② | 弟 が テレビ を 2時間 見ます |
Otouto ga terebi o nijikan mimasu | |
น้องชายดูทีวี 2 ชั่วโมงครับ/ค่ะ | |
③ | 田中 先生 が 一週間 休みます |
Tanaka sensei ga isshuukan yasumimasu | |
อาจารย์ทานากะหยุด 1 สัปดาห์ครับ/ค่ะ | |
④ | 山田 さん が 一年間 タイ語 を 勉強 します |
Yamadasan ga ichinenkan taigo o benkyou shimasu | |
คุณยามาดะเรียนภาษาไทย 1 ปีครับ/ค่ะ |
⑤ | 女の子 が 三人 います |
Onna no ko ga sannin imasu | |
เด็กผู้หญิงมี 3 คน | |
⑥ | 本 が 二冊 あります |
Hon ga nisatsu arimasu | |
หนังสือมี 2 เล่ม | |
⑦ | 猫 が 一匹 います |
neko ga ippiki imasu | |
แมวมี 1 ตัว | |
⑧ | 鉛筆 が 四本 あります |
Enpitsu ga yonhon arimasu | |
ดินสอมี 4 แท่ง คำอธิบาย ตามปกติ คำนามทุกๆคำในภาษาญี่ปุ่น เมื่อจะใช้ในประโยคใดๆ มักจะต้องใช้ควบคู่กับคำช่วย เพื่อระบุว่าคำนามนั้นทำหน้าที่อะไรในประโยค แต่คำนามที่เกี่ยวกับระยะเวลา เช่น ปี เดือน สัปดาห์ วัน ชั่วโมง นาที วินาที คำนามที่เกี่ยวกับจำนวน และคำลักษณะนาม ไม่ต้องใช้คำช่วย อ่านตรงนี้หน่อย ในบทนี้ จะเห็นว่ามีประโยคที่มีคำนาม 2 คำ ที่ขยายคำกริยาตัวเดียวกัน เช่น ตัวอย่างที่ ② จะมีทั้งคำว่า "ทีวี" และ "2 ชั่วโมง" ซึ่งเป็นวลีที่ขยายคำกริยา คือ "ดู" กรณีเช่นนี้ จะเกิดความสงสัยว่า ควรจะเรียงลำดับคำนาม 2 ตัวนี้อย่างไร คือ テレビ を 2時間 見ます (terebi wo ni-jikan mimasu) หรือ 2時間 テレビ を 見ます (ni-jikan terebi wo mimasu) คำตอบคือ สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ แต่จะมีความหมายแตกต่างกันเล็กน้อย คือ คำนามที่อยู่ใกล้คำกริยา จะเป็นคำสำคัญที่ต้องการสื่อสารมากกว่า テレビ を 2時間 見ます จึงมีความหมายว่า "ดู 2 ชั่วโมง" ส่วนคำว่า "ทีวี" เป็นวลีที่มาขยายอีกครั้งหนึ่งว่า ที่ดู 2 ชั่วโมงนั้น ดูอะไร 2時間 テレビ を 見ます จึงมีความหมายว่า "ดูทีวี" ส่วนคำว่า "2 ชั่วโมง" เป็นวลีที่มาขยายต่อว่า ดูทีวีนานแค่ไหน |
บทที่ 21 การใช้ は
は เป็นคำช่วยเพื่อชี้ประธานของประโยค มีรูปแบบการใช้งาน คือ |
「ประธาน」+ は | +「คำนาม」+ です +「คุณศัพท์」+ です +「กริยา」+ ます |
① | これ は 私 の 傘 です |
Kore wa watashi no kasa desu | |
นี่คือร่มของฉันครับ/ค่ะ | |
② | この 青い 傘 は 私 の 傘 です |
Kono aoi kasa wa watashi no kasa desu | |
ร่มสีน้ำเงินอันนี้คือร่มของฉันครับ/ค่ะ | |
③ | 私 の 傘 は あの 赤い 傘 では ありません |
Watashi no kasa wa ano akai kasa dewa arimasen | |
ร่มของฉันไม่ใช่ร่มสีแดงอันโน้นครับ/ค่ะ | |
④ | 私 の 大きい 傘 は どこ です か |
Watashi no ookii kasa wa doko desu ka | |
ร่มใหญ่ของฉันอยู่ที่ไหนครับ/ค่ะ |
⑤ | 桜 は きれい です |
Sakura wa kirei desu | |
ซากุระสวยครับ/ค่ะ | |
⑥ | 桜 の 木 は かなり 大きい です |
Sakura no ki wa kanari ookii desu | |
ต้นซากุระค่อนข้างใหญ่ครับ/ค่ะ | |
⑦ | 桜 の 季節 は そんな に 長く ありません |
Sakura no kisetsu wa sonna ni nagaku arimasen | |
ฤดูของดอกซากุระไม่ได้ยาวนานขนาดนั้นครับ/ค่ะ | |
⑧ | 今年 の 桜 は あまり きれい では ありません |
Kotoshi no sakura wa amari kirei dewa arimasen | |
ดอกซากุระปีนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไรครับ/ค่ะ |
⑨ | 私 は 行きません | |
Watashi wa ikimasen | ||
ฉันไม่ไปครับ/ค่ะ | ||
⑩ | お母さん は 行きます | |
Okaasan wa ikimasu | ||
คุณแม่ไปครับ/ค่ะ | ||
⑪ | お父さん は 行きます か | |
Otousan wa ikimasu ka | ||
คุณพ่อไปไหมครับ/ค่ะ | ||
⑫ | いいえ、お父さん は 行きません | |
Iie, otousan wa ikimasen | ||
ไม่ คุณพ่อไม่ไปครับ/ค่ะ คำอธิบาย
อ่านตรงนี้หน่อย
เนื่องจาก は ทำหน้าที่ชี้ประธานในลักษณะเจาะจง
ดังนั้น หากพูดถึงประธานเดิมๆ หลายๆครั้ง เช่น わたしは、 わたしは .. หรือ あなたは、あなたは .. ก็จะทำให้ผู้ฟังเกิดอาการอึดอัด เพราะเหมือนกับกำลังถูกเน้นย้ำในหัวข้อเดิมๆ กรณีนี้ควรหลีกเลี่ยงโดยละภาคประธาน คือ ข้ามไปพูดเฉพาะภาคแสดงเลย เช่น わたし は ソムチャイ です。タイ人 です。大学生 です。二十歳 です。 Watashi wa Somuchai desu. Tajijin desu. Daigakusei desu. Hatachi desu. ผมชื่อสมชาย เป็นคนไทย เป็นนักศึกษา อายุ 20 ปีครับ บทที่ 22 การใช้ が
|
|
① | これ が 私 の かばん です |
Kore ga watashi no kaban desu | |
อันนี้คือกระเป๋าของฉันครับ/ค่ะ | |
② | あの 青い かばん が 私 の かばん です |
Ano aoi kaban ga watashi no kaban desu | |
กระเป๋าสีน้ำเงินใบโน้นคือกระเป๋าของฉันครับ/ค่ะ | |
③ | どれ が あなた の かばん です か |
Dore ga anata no kaban desu ka | |
อันไหนคือกระเป๋าของคุณครับ/ค่ะ | |
④ | これ が 私 の かばん です |
Kore ga watashi no kaban desu | |
อันนี้คือกระเป๋าของฉันครับ/ค่ะ |
⑤ | 月 が きれい です |
Tsuki ga kirei desu | |
ดวงจันทร์สวยครับ/ค่ะ | |
⑥ | 今晩 の 月 が とても きれい です |
Konban no tsuki ga totemo kirei desu | |
ดวงจันทร์คืนนี้สวยมากครับ/ค่ะ | |
⑦ | 何 が きれい です か |
Nani ga kirei desu ka | |
อะไรสวยครับ/ค่ะ | |
⑧ | 夜空 が きれい です |
Yozora ga kirei desu | |
ท้องฟ้ายามค่ำคืนสวยครับ/ค่ะ |
⑨ | 弟 が 泣きます |
Otouto ga nakimasu | |
น้องชายร้องไห้ครับ/ค่ะ | |
⑩ | 弟 が わんわん 泣きます |
Otouto ga wanwan nakimasu | |
น้องชายร้องไห้โฮครับ/ค่ะ | |
⑪ | 誰 が 泣きます か |
Dare ga nakimasu ka | |
ใครร้องไห้ครับ/ค่ะ | |
⑫ | 弟 が 泣きます |
Otouto ga nakimasu คำอธิบาย
อ่านตรงนี้หน่อย
ผู้ที่เริ่มเรียนไวยากรณ์ญี่ปุ่น จะค่อนข้างสับสนในการใช้คำว่า は และ が
ดังนั้น ในขั้นนี้จึงควรทำความเข้าใจว่า
หากใช้สลับกัน จะมีความหมายว่ากำลังตั้งใจกล่าวเจาะจงถึงประธานเท่านั้น
แนวทางข้างต้นนี้ แม้ว่าอาจจะไม่สามารถใช้ได้ในทุกกรณี แต่ก็มีความสะดวกในการจดจำ และช่วยลดข้อผิดพลาดในการใช้ は และ が ลงได้มาก |
บทที่ 23 การใช้ の
の เป็นคำช่วยที่แสดงความสัมพันธ์ โดยคำนามที่อยู่ข้างหน้าจะเป็นคำขยายคำนามที่อยู่ด้านหลัง เช่น |
「คำนาม 2」+ の +「คำนาม 1」
① | あなた の 名前 は 何です か。 |
Anata no namae wa nan desu ka | |
ชื่อของคุณคืออะไรครับ/ค่ะ | |
② | 私 の 名前 は 山田 です。 |
Watashi no namae wa Yamada desu | |
ชื่อของฉันคือยามาดะครับ/ค่ะ | |
③ | この 犬 は 私 の ペット です。 |
Kono inu wa watashi no petto desu | |
สุนัขตัวนี้คือสัตว์เลี้ยงของฉันครับ/ค่ะ | |
④ | 私 の ペット の 名前 は ポチ です。 |
Watashi no petto no namae wa pochi desu | |
ชื่อของสัตว์เลี้ยงของฉันคือโปจิครับ/ค่ะ |
⑤ | あなた の 誕生日 は いつ です か。 |
Anata no tanjoubi wa itsu desu ka | |
วันเกิดของคุณวันไหนครับ/ค่ะ | |
⑥ | 私 の 誕生日 は 12月25日 です。 |
Watashi no tanjoubi wa juunigatsu nijuugonichi desu | |
วันเกิดของฉันวันที่ 25 เดือนธันวาคมครับ/ค่ะ | |
⑦ | 明日 は 私 の 誕生日 です。 |
Ashita wa watashi no tanjoubi desu | |
พรุ่งนี้วันเกิดของฉันครับ/ค่ะ | |
⑧ | 私 は 3人兄弟 の 末っ子 です。 |
Watashi wa sannin kyoudai no suekko desu | |
ฉันเป็นลูกคนสุดท้องของพี่น้อง 3 คนครับ/ค่ะ |
คำอธิบาย
- の เป็นคำช่วยเพื่อแสดงความสัมพันธ์ เช่น
- これ は 私 の 本 です
Kore wa watashi no hon desu
นี่คือหนังสือของฉัน
- これ は 私 の 本 です
- ประโยคข้างต้นมีภาคประธานคือ 「これ は」 และมีภาคแสดงคือ 「本 です」
ดังนั้น เมื่อจะนำคำว่า 「私 の」ไปขยายภาคแสดง จึงต้องนำไปวางไว้ข้างหน้าภาคแสดง - การใช้ の จะใช้ซ้อนกันกี่ครั้งก็ได้ เช่น
- 私 の お父さん の 友達 の 本 は 面白い です
Watashi no otousan no tomodachi no hon wa omoshiroi desu
เมื่อเวลาแปลเป็นภาษาไทย จะแปลจากด้านหลังกลับมาด้านหน้า (เนื่องจากคำขยายจะวางซ้อนอยู่ข้างหน้าไปเรื่อยๆ) คือ
หนังสือของเพื่อนของคุณพ่อของฉัน สนุกครับ/ค่ะ - 私 の お父さん の 友達 の 本 は 面白い です
บทที่ 24 การใช้ も
も เป็นคำช่วยขยายประธาน เพื่ออธิบายว่าประธานก็เป็นเช่นกันหรือทำเช่นเดียวกัน โดยมีรูปแบบการใช้งาน คือ |
「ประธาน」+ も + | 「คำนาม」+ です 「คุณศัพท์」+ です 「กริยา」+ ます |
① | ダチョウ も 鳥 です か |
Dachou mo tori desu ka | |
นกกระจอกเทศก็เป็นนกหรือครับ/ค่ะ | |
② | はい、ダチョウ も 鳥 です |
Hai, dachou mo tori desu | |
ใช่ นกกระจอกเทศก็เป็นนกครับ/ค่ะ | |
③ | コウモリ も 鳥 です か |
Koumori mo tori desu ka | |
ค้างคาวก็เป็นนกหรือครับ/ค่ะ | |
④ | いいえ、コウモリ は 鳥 では ありません。哺乳類 です |
Iie, koumori wa tori dewa arimasen. Honyuurui desu | |
ไม่ ค้างคาวไม่ใช่นก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมครับ/ค่ะ |
⑤ | イルカ も 小さい です か |
Iruka mo chiisai desu ka | |
โลมาก็เล็กหรือครับ/ค่ะ | |
⑥ | いいえ、イルカ は 小さく ありません |
Iie, iruka wa chiisaku arimasen | |
ไม่ โลมาไม่เล็กครับ/ค่ะ | |
⑦ | 鯨 も 小さく ありません か |
Kujira mo chiisaku arimasen ka | |
วาฬก็ไม่เล็กหรือครับ/ค่ะ | |
⑧ | はい、鯨 は 大きい です |
Hai, kujira wa ookii desu | |
ใช่ วาฬใหญ่ครับ/ค่ะ |
⑨ | あなた も 行きます か |
Anata mo ikimasu ka | |
คุณก็ไปหรือครับ/ค่ะ | |
⑩ | はい、私 も 行きます |
Hai, watashi mo ikimasu | |
ใช่ ฉันก็ไปครับ/ค่ะ | |
⑪ | 先生 も 行きます か |
Sensei mo ikimasu ka | |
อาจารย์ก็ไปหรือครับ | |
⑫ | いいえ、先生 は 行きません |
Iie, sensei wa ikimasen | |
ไม่ อาจารย์ไม่ไปครับ/ค่ะ |
คำอธิบาย
- も ทำหน้าที่ขยายประธานเพื่อให้ทราบว่าประธานก็เป็นเช่นเดียวกัน หรือทำกริยาเหมือนกันกับเรื่องที่ทราบอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว มีความหมายตรงกับคำว่า "ก็" ในภาษาไทย
- แต่หากตอบปฏิเสธว่าประธานไม่ใช่หรือไม่ได้ทำเหมือนกับเรื่องที่ทราบอยู่ก่อนหน้านี้ ปกติจะใช้คำช่วยคือ は เพื่อจำแนกให้ทราบความแตกต่างกับสิ่งอื่น